ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.64 รอดูตัวเลข PCE สหรัฐฯ คืนนี้ คาดกรอบวันจันทร์ 35.50-35.85

InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.64 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัว แข็งค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.77 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.61 – 35.77 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม โดยตลาดรอดูดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ธ.ค.66 ซึ่งเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ใน คืนนี้ “บาทแกว่งตัวในกรอบแคบๆ พลิกกลับมาแข็งค่า ขณะที่ตลอดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนนี้” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 35.50 – 35.85 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ 147.85 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 147.71 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ 1.0846 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0837 ดอลลาร์/ยูโร – ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,368.15 จุด ลดลง 7.94 จุด, -0.58% มูลค่าซื้อขาย 48,277.69 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,766.55 ล้านบาท – นายกรัฐมนตรี แสดงความพอใจต่อสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มเดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่ม มากขึ้น จนล่าสุดในเดือนม.ค.67 ทำสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 แล้ว – กระทรวงพาณิชย์ เผยเดือน ธ.ค.66 การส่งออกมีมูลค่า 22,791.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวต่อเนื่องที่ 4.7% ส่วน การนำเข้ามีมูลค่า 21,818.8 ล้านดอลลาร์ หดตัว 3.1% แต่พลิกมาเกินดุลการค้า 972.8 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ทั้งปี 66 การส่ง ออกมีมูลค่า 284,561.8 ล้านดอลลาร์ หดตัว 1% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 289,754.3 ล้านดอลลาร์ หดตัว 3.8% ขาดดุลการค้า 5,192.5 ล้านดอลลาร์ – กระทรวงพาณิชย์ จับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลแดง กรณีกองทัพสหรัฐฯ และพันธมิตร ตอบโต้กลุ่มฮูตีที่ โจมตีเรือสินค้าที่อาจกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการค้าของไทย – สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรผู้นำระดับสูง 4 รายของกลุ่มฮูตีในเยเมน โดยอ้างว่าบุคคลเหล่านี้ให้การสนับสนุนกลุ่มฮูตี ในการโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงเมื่อเร็วๆ นี้ โดยกระทรวงการคลังสหรัฐระบุมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวบังคับใช้ร่วมกับอังกฤษ – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือน ก.พ.67 ลดลงมาอยู่ที่ -29.7 จาก -25.4 ในเดือน ม.ค.แย่กว่า ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ -24.5 – กระทรวงพาณิชย์จีน ประกาศให้ปี 2567 เป็น “ปีแห่งการส่งเสริมการบริโภค” พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นใน การฟื้นฟูอุปสงค์และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศให้มากขึ้น – ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยรายงานการประชุมประจำเดือน ธ.ค.ระบุว่า BOJ จะยังไม่ยกเลิกการใช้นโยบาย อัตราดอกเบี้ยติดลบ และนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งรวมถึงการเจรจา เกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้าง – ญี่ปุ่น เผย อัตราเงินเฟ้อในกรุงโตเกียวในเดือน ม.ค.67 ลดลงต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง โดยลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต้องชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ เดือนข้างหน้า – ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อ มั่นผู้บริโภคเดือนม.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัด ซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนม.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. เป็นต้น

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest